รูปทรงหลังคาที่นิยมในการสร้างบ้าน



ในการสร้างบ้านนั้นเต็มไปด้วยรายละเอียดต่างๆ ที่เราต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะหลังคา ถือเป็นปัจจัยสำคัญมากที่ผู้รับเหมาและผู้อยู่อาศัยต้องนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ ในการสร้างบ้านหรืออาคาร ซึ่งต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างดี รวมทั้งการเลือกใช้กระเบื้องหลังคาราคาดีก็สำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากหลังคาเป็นส่วนที่สูงที่สุดของบ้านและอาคาร ยังทำหน้าที่กันแดด กันลม กันฝนให้ทั้งภายในและภายนอกของอาคาร

1. หลังคาแบน (Flat Slab Roof) หลังคาทรงแบนแบบเปลือย

วัสดุที่นิยมใช้เป็นคอนกรีตเทหล่อ ซึ่งจะเหมาะกับบ้านรูปทรงโมเดิร์น และทรอปิคอลโมเดิร์น โดยสามารถใช้พื้นที่ของหลังคาให้เกิดเป็นประโยชน์ได้ หลังคาแบนมีลักษณะแบนราบเป็นระนาบเดียวกับพื้น แต่ต้องมีความลาดเอียงเล็กน้อยเทไปยังช่องที่เจาะเพื่อระบายน้ำฝนออกไป หรือเทไปยังท่อระบายบนหลังคา แต่หลังคาประเภทนี้ดูดซับความร้อนและรับน้ำฝนโดยตรง จึงต้องมีการป้องกันการรั่วซึมที่ดี ซึ่งวิธีการป้องกันมักจะผสมสารกันรั่วซึมในคอนกรีตระหว่างที่เทหลังคา เมื่อคอนกรีตแห้งแล้ว ให้ทาผลิตภัณฑ์กันรั่วซึมทาทับอีกที ไม่ควรนำพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปมาทำหลังคา เพราะมีรอยต่อซึ่งอาจทำให้เกิดการรั่วซึมได้

ข้อดี : สร้างง่าย ประหยัดวัสดุโครงสร้างและสามารถใช้พื้นที่บนหลังคาแบนได้ ส่วนข้อควรระวัง : หลังคาทั้งผืนต้องรับความร้อนตลอดทั้งวัน และ มีความเสี่ยงในการเกิดการรั่วซึมได้มาก ระบายน้ำฝนได้ไม่ดี ควรจะผสมน้ำยากันซึม หรือควรมีวัสดุกันซึมปูทับอีกชั้นหนึ่ง

2. หลังคาเพิงหมาแหงน (Lean To Roof) 


เป็นทรงหลังคาที่ได้รับความนิยมมากในสมัยนี้ โดยเฉพาะบ้านโมเดิร์นสมัยใหม่ เนื่องจากเป็นรูปทรงเลขาคณิตที่ดูแล้วเรียบง่าย ดังนั้นหลังคาเพิงหมาแหงนจึงแสดงออกถึงความทันสมัย โดยสังเกตุหลังคาชนิดนี้ได้ง่ายๆ คือ จะมีองศาเอียงไปด้านเดียวเปรียบเสมือนหมาที่นั่งแหงนหน้าขึ้น การยกให้หลังคามีความสูงอีกด้านหนึ่งมากกว่าอีกด้านหนึ่งในลักษณะนี้ ทำให้หลังคาของตัวอาคารมีความสามารถในการระบายน้ำฝนได้ดีตามองศาของหลังคาที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ว่าก็ต้องมีข้อควรระวังคือ ให้หลังคาเพิงหมาแหงนมีองศาความลาดเอียงมากพอ โดยองศาความลาดเอียงขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุและประเภทของตัวแผ่นหลังคาที่นำมาใช้มุง เพื่อที่จะระบายน้ำฝนออกได้ทันไม่ไหลย้อนซึมกลับเข้ามาได้ โดยวัสดุที่มักใช้ในการทำหลังแบบเพิงหมาแหงน มักใช้เป็นวัสดุที่มีขนาดยาวซึ่งทำให้รอยต่อน้อยและมีระยะซ้อนทับมาก เช่น เมทัลชีท, กระเบื้องลองคู่, กระเบื้องหลังคาคอนกรีต ทั้งนี้การเลือกใช้วัสดุในการมุงหลังคาก็จะขึ้นอยู่กับองศาของรูปแบบหลังคาที่ต้องการ

ข้อดี : เนื่องจากโครงสร้างหลังคาไม่สลับซับซ้อนเหมือนหลังคาประเภทอื่น ทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้หลายอย่าง ตั้งแต่ประหยัดโครงสร้างอาคาร, หลังคา, ค่าแรง, เวลา, โดยรวมประหยัดเงิน ส่วนข้อควรระวัง : บังแดดและฝนได้ทิศทางเดียว ควรระวังเรื่ององศาความลาดเอียงหลังคาที่จะทำให้เกิดปัญหารั่วซึมในภายหลังได้

3. หลังคาปีกผีเสื้อ (Butterfly Roof)


ประกอบด้วยหลังคาเพิงหมาแหงน 2 หลังหันด้านที่ต่ำกว่ามาชนกัน ทรงนี้ไม่ได้มีให้พบเห็นได้เยอะในประเทศไทย แต่บางทีเจ้าของบ้านหรือผู้ออกแบบนำมาใช้เพื่อเสริมสร้างความสวยงาม แต่เนื่องจากตำแหน่งที่ต่ำที่สุดอยู่บริเวณกลางตัวอาคารทำให้ หลังคาแบบผีเสื้อ อาจเกิดการรั่วซึมได้สูงกว่าหลังคารูปทรงอื่น เพราะน้ำฝนย่อมรวมกันตรงพื้นที่ต่ำกว่า และปริมาณน้ำฝนที่สามารถตกเข้ามาในปริมาณมากจากทั้งสองด้านของหลังคาเสมอ ดังนั้นการติดตั้งรางน้ำฝนบริเวณกลางหลังคาที่มีความสามารถรองรับน้ำ จึงต้องมีการออกแบบและดำเนินการอย่างละเอียด รางน้ำที่ถูกเลือกใช้จะต้องมีความกว้างและลึกกว่าหลังคาทั่วไป เพื่อให้สามารถรองรับและระบายน้ำฝนได้ทัน

ข้อดี ความสวยงามและดูแปลกตาและทำให้อาคารที่ก่อสร้างมีความเด่นสะดุดตา ส่วนข้อควรระวัง : เป็นทรงหลังคาที่รองรับน้ำ จึงมีโอกาสสูงมากที่จะมีโอกาสรั่วซึมของน้ำ

4. หลังคาทรงหน้าจั่ว (Gable Roof)


เป็นหลังคาที่มีการใช้อย่างแพร่หลาย เพราะมีความเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นแบบเมืองไทย และยังเหมาะกับการปลูกสร้างบ้านทั่วไปในทุกภูมิภาคทุกภูมิประเทศอีกด้วย เรียกได้ว่า เป็นแบบมาตรฐานที่นิยมใช้กันมาเนิ่นนาน โดยผืนหลังคามีความลาดเอียงสองด้านชนกันที่ปลายสูงสุดของหลังคา สันสูงอยู่ตรงกลาง และมีความสามารถในการระบายความร้อนใต้หลังคาได้ดี เนื่องจากทรงของหลังคายกสูง และมีพื้นที่ใต้หลังคามาก ด้วยคุณสมบัติของไอความร้อนที่จะลอยขึ้นสูงเสมอ ทำให้การที่มีพื้นที่ใต้หลังคามาก มีอากาศไหลเวียนเข้าอยู่ภายใต้หลังคา และกระจายตัวความร้อนออกตามโครงสร้างของหลังคา นอกจากนี้ยังช่วยในการลดปัญหาของการรั่วซึมของน้ำ เนื่องจากมุมองศาของบ้านและการลาดเอียงออกจากตัวอาคารทั้งสองด้านในเวลาเดียวกัน บวกกับความลาดเอียงที่เยอะเป็นพิเศษ จึงทำให้เมื่อฝนตกแรงของน้ำ สามารถกระจายตัวออก และไหลลงเชิงชายของหลังคาและออกจากตัวบ้านได้อย่างรวดเร็ว

ข้อดี : เป็นทรงหลังคาที่ระบายความร้อนได้ดีกว่ารูปทรงอื่นๆ ส่วนข้อควรระวัง : ฝนสาดได้หากตัวบ้านและหน้าจั่วหันผิดทิศ

5. หลังคาทรงปั้นหยา (Hip Roof)


ได้รับความนิยมสูงในบ้านสไตล์ญี่ปุ่น เกาหลี และประเทศไทย ลักษณะพิเศษของหลังคาทรงปั้นหยานั้นคือการครอบคลุมตัวหลังคาไปในทุกทิศทางของบ้าน ส่วนใหญ่ที่เราพบเห็นคือด้านลาดเอียงสี่ด้านขึ้นไปชนกัน โดยส่วนบนสุดของหลังคา จะเป็นจุดยอดรวมของแต่ละด้าน มีลักษณะเป็นทรงสามเหลี่ยม และสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันพิงเข้าหากัน หลังคาทรงปั้นหยานั้นมีมุมลาดเอียงน้อยกว่าทรงจั่ว

ข้อดี : มีความแข็งแรงที่สุดเมื่อเทียบกับทรงหลังคาทุกแบบสามารถรับลมและฝนได้จากทุกทิศทางรวมถึงเข้ากันได้กับตัวบ้านหลากหลายสไตล์ ส่วนข้อควรระวัง : รับลมเข้ามาระบายอากาศได้ไม่ดีเท่าหลังคาแบบอื่น และช่างติดตั้งต้องมีความชำนาญ

ความคิดเห็น